

ประวัติความเป็นมา 
จังหวัดนครราชสีมา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "โคราช" เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจหลายยุคหลายสมัย เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ มีการค้นพบทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานของผู้คน มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์กว่า 2,500 - 4,000 ปีที่แล้ว ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณ "โคราฆะปุระ" หรือ "เมืองเสมา" ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในสมัยทวาราวดี และได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมทั้งพุทธและฮินดูผสมผสานกัน หลักฐานสำคัญคือจารึกที่เมืองเสมา พ.ศ. 1514 ที่กล่าวถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 และแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมขอมในพื้นที่นี้
.
ปัจจุบันจังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 20,493 ตารางกิโลเมตร เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า และการคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมมากมาย เช่น ปราสาทหินพิมาย อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ที่สะท้อนเรื่องราวความเป็นมาอันรุ่งเรืองของจังหวัด นครราชสีมาจึงเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง มีเรื่องราวและมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และยังคงเป็นเมืองสำคัญที่เชื่อมโยงภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าไว้ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้
.
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา 
งานพัฒนาชุมชนในประเทศไทยเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2505 เมื่อรัฐบาลไทย ได้ก่อตั้ง "กรมการพัฒนาชุมชน" ขึ้น สังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือเป็นการนำแนวคิดและหลักการของการพัฒนาชุมชนมาประยุกต์ใช้ในบริบทของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง และพัฒนาศักยภาพของชุมชนให้เข้มแข็ง
.
บทบาทของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับการริเริ่มงานพัฒนาชุมชนทั่วประเทศ เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจของกรมฯ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดขนาดใหญ่และมีจำนวนประชากรมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่การปกครองแบ่งออกเป็น 32 อำเภอ 289 ตำบล 3,742 หมู่บ้าน โดยแบ่งพื้นที่การปฏิบัติราชการออกเป็น 5 กลุ่มโซนอำเภอตามคำขวัญของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ กลุ่มโซนอำเภอเมืองหญิงกล้า กลุ่มโซนอำเภอผ้าไหมดี กลุ่มโซนอำเภอหมี่โคราช กลุ่มโซนอำเภอปราสาทหิน และกลุ่มโซนอำเภอดินด่านเกวียน

เริ่มแรกสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมามีบทบาทสำคัญในด้าน
1. ส่งเสริมการรวมกลุ่มและจัดตั้งองค์กรชุมชน สนับสนุนให้ประชาชนรวมกลุ่มกันเพื่อดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
2. พัฒนาผู้นำชุมชน จัดอบรมและพัฒนาศักยภาพของผู้นำชุมชนให้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการ และขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ของตนเอง
3. สนับสนุนโครงการและกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชน การส่งเสริมสุขอนามัย การจัดการสิ่งแวดล้อม
4. ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน สนับสนุนการพัฒนาอาชีพ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการตลาดสินค้าชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)" ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจฐานราก
.
วิวัฒนาการและการปรับเปลี่ยนบทบาท
ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการปรับเปลี่ยนบทบาทและภารกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้
ยุคเริ่มต้น (พ.ศ. 2505 - พ.ศ. 2520) เน้นการสร้างความเข้าใจในงานพัฒนาชุมชน การจัดตั้งกลุ่ม และการส่งเสริมสุขอนามัยพื้นฐาน
ยุคแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (พ.ศ. 2520 - พ.ศ. 2530) บทบาทเริ่มซับซ้อนขึ้น เน้นการบูรณาการแผนงานพัฒนาชุมชนเข้ากับแผนพัฒนาของประเทศ การส่งเสริมอาชีพและการเพิ่มรายได้
ยุควิกฤตเศรษฐกิจและการปฏิรูป (พ.ศ. 2540) บทบาทในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และโครงกการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมาเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนโครงการเหล่านี้ในระดับจังหวัด
ยุคปัจจุบัน (พ.ศ. 2550 - ปัจจุบัน) เน้นการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็งยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลชุมชน การพัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ และการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยยังคงบทบาทในการเป็นพี่เลี้ยงและผู้สนับสนุนการดำเนินงานของภาคประชาชนในพื้นที่
.
.
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา
ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 3 ถนนมหาดไทย ตำบลในเมือง
อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000
.